วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556


ICT IN ORGANIZATION

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กร



 ในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์มากขึ้น สังเกตได้จากการนำคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาใช้ในสำนักงาน การจัดทำระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ การใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แสดงว่าเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการคำนวณและ เก็บข้อมูลได้ แพร่ไปทั่วทุกแห่ง เทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทสำคัญต่อการแข่งขันด้านธุรกิจและการขยายตัวของ บริษัท ส่งผลต่อการให้บริการขององค์การและหน่วยงาน และมีผลต่อการประกอบกิจในแต่ละวันเทคโนโลยีสารสนเทศเริ่มใช้งานในประเทศไทย เมื่อไม่นานมานี้เองโดยในปีพ.ศ.2507มีการนำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก และในขณะนั้นเทคโนโลยีสารสนเทศยังไม่แพร่หลายนัก จะมีเพียงการใช้โทรศัพท์เพื่อกาติดต่อสื่อสารและนำคอมพิวเตอร์มาช่วยประมวล ผลข้อมูล งานด้านสารสนเทศอื่น ๆ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นงาน ภายในสำนักงานที่ยังไม่มีอุปกรณ์และเครื่องมือด้านเทคโนโลยีมาช่วยงานเท่าใด นักเมื่อมีการประดิษฐ์คิดค้นอุปกรณ์ช่วยงานสารสนเทศ เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร โทรสาร และไมโครคอมพิวเตอร์ อาชีพของประชากรก็ปรับเปลี่ยนมาสู่งานด้านสารสนเทศมากขึ้น สำนักงานเป็นแหล่งที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมากที่สุดเช่นการใช้คอมพิวเตอร์ทำบัญชีเงินเดือนและบัญชีรายรับรายจ่าย การติดต่อสื่อสารภายในและภายนอกโดยโทรศัพท์และ โทรสาร การจัดเตรียมเอกสารด้วยการใช้เครื่องถ่ายเอกสารและคอมพิวเตอร์งานด้านสารสนเทศมีแนวโน้มขยายตัวที่ค่อนข้างสดใส เพราะเทคโนโลยีด้านนี้ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนอย่างเต็มที่ มีการวิจัยและพัฒนาให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ออกมาตอบสนองความต้องการของมนุษย์อยู่ตลอดเวลา


ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ



ในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งในชีวิตประจำวัน ชีวิตการทำงาน และการดำเนินงานขององค์การต่างๆ จนบางครั้งอาจเปรียบสารสนเทศได้เสมือนกับสายเลือดที่หล่อเลี้ยงการทำงานแทบ ทุกองค์การ และผลกระทบของสารสนเทศก็มีอย่างกว้างขวาง ทั้งในระดับบุคคล กลุ่ม และองค์การ รวมทั้งการทำงานในสาขาวิชาชีพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารงานภาครัฐ ธุรกิจ กฎหมาย วิทยาศาสตร์ การศึกษา การแพทย์ สาธารณสุข วิศวกรรมศาสตร์ และงานบริการสังคมด้านต่างๆ องค์การที่สามารถจัดเก็บสารสนเทศได้ดี ภายใต้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ย่อมจะดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล มีความได้เปรียบในการแข่งขัน และช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดความพอใจในการทำงานมากขึ้น อันจะนำไปสู่ความสำเร็จในที่สุด


ข้อดีของเทคโนโลยีสารสนเทศ



  • เทคโนโลยีสารสนเทศมีเป้าหมายกำหนดไว้ดังนี้



1.เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
2.เพิ่มผลผลิต
3.เพิ่มคุณภาพบริการลูกค้า
4.ผลิตสินค้าใหม่และขยายผลผลิต
5.สามารถสร้างทางเลือกเพื่อแข่งขันได้
6.สร้างโอกาสทางธุรกิจ
7.ดึงดูดลูกค้าและป้องกันคู่แข่ง

  • จากเป้าหมายทั้ง7ประการของเทคโนโลยีสารสนเทศถ้าสามารถดำเนินการได้ตามเป้หมายดังกล่าวก็ถือได้ว่าเป็นข้อดีของเทคโนโลยีสารสนเทศระบบนี้ได้ทั้งหมด


ข้อเสียของเทคโนโลยีสารสนเทศ



1.วงจรชีวิตของระบบสารสนเทศ เป็นระบบที่มีวงจรชีวิตค่อนข้างจำกัด อาจจะอธิบายได้ว่า เนื่องจาการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี รวมทั้งสภาพทางเศรษฐกิจและธุรกิจ เช่น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนระบบสารสนเทศไปด้วยหรือ การเปลี่ยนแปลงความต้องการของผู้บริหาร ก็อาจจะต้องเปลี่ยนระบบสารสนเทศไปด้วย
2.ลงทุนสูง เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือที่มีราคาแพง และส่วนมากไม่อาจจะนำไปใช้ได้ทันที แต่จะต้องมีความรู้ความเข้าใจเสียก่อนจึงจะใช้ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
3.ก่อให้เกิดช่องว่าง (Gap) เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้เกิดช่องว่างในการรับข่าวสารระหว่างคนจนกับคนรวย
3.ผลกระของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อสังคมมนุษย์


ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศกับการแข่งขันทางธุรกิจ


การเติบโตของเครือข่ายอินเตอร์เน็ต  ทำให้มีผู้ใช้งานกันอย่างกว้างขวาง  เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก  ทำให้การสื่อสารระหว่างกันบนอินเทอร์เน็ตทำได้ง่ายและมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าระบบการสื่อสารแบบอื่น  การสื่อสารที่นิยมบนอินเทอร์เน็ต  ได้แก่  การรับส่งข้อมูลกับการแลกเปลี่ยน โอนย้ายแฟ้มข้อมูลระหว่างกัน  การส่งอีเมล์  การกระจายทำการในรูปแบบเว็บเพจ  ตลอดจนการโต้ตอบสื่อสารแบบส่งข้อความและการประยุกต์ในเรื่องธุรกิจอีกมากมาย การประยุกต์ที่น่าสนใจบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอย่างหนึ่ง คือ ระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออีคอมเมิร์ซ ( electronic commerce : e-commerce ) หรือการค้าขายบนเครือข่าย อินเตอร์เน็ต มีการตั้งร้านค้าบนอินเตอร์เน็ตจำนวนมาก ผู้ตั้งร้านค้าใช้เว็บเพจนำเสนอสินค้าและบริการต่างๆซึ่งทำให้ผู้เข้าใช้บริการสามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ ทุกประเทศ เป็นการเปิดร้านค้าที่มีลูกค้าเข้าเยี่ยมชมจากที่ต่าง ๆ ได้ทั่วทุกมุมโลก ตัวอย่างเช่น ร้านหนังสือหลายแห่งที่อยู่บนอินเตอร์เน็ต นำเสนอรายการและตัวอย่างหนังสือบนเครือข่าย มีหนังสือที่ทางร้านนำเสนอหลายแสนเล่ม มีระบบเครือข่ายค้นหาหนังสือเล่มที่ต้องการ และหากสนใจติดต่อสั่งซื้อก็กรอกลงในแบบฟอร์มการสั่งซื้อ มีระบบการชำระเงินได้หลายแบบ เช่น ระบบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ระบบการโอนเงินผ่านธนาคาร ระบบการนำสินค้าส่งถึงที่แล้วจึงค่อยชำระเงิน การจัดส่งสินค้าก็ทำได้รวดเร็ว มีเครือข่ายการส่งสินค้าได้ทั่วโลกผ่านทางบริษัทจัดส่งสินค้าแบบเร่งด่วน ระบบการค้าขายบนอินเตอร์เน็ตจึงเติบโตและมีผู้นิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้เพราะข้อดีคือสามารถนำเสนอสินค้าให้กับลูกค้าได้กว้างขวาง สินค้าบางอย่างเป็นสินค้าที่มีมากและราคาถูกในท้องที่หนึ่ง แต่อาจเป็นที่ต้องการในอีกที่หนึ่ง เช่น คนไทยสามารถส่งปลาทูขายผ่านระบบอีคอมเมิร์ซไปยังผู้บริโภคแถบประเทศตะวันออกกลาง โดยระบบบรรจุหีบห่อแช่แข็งขนาดเล็ก ส่งผ่านบริษัทจัดส่งสินค้าเร่งด่วนไปยังผู้บริโภคได้ นอกจากนี้สินค้าประเภทหัตถกรรมไทยจำนวนมากก็เป็นที่ต้องการของต่างประเทศ การนำเสนอสินค้าผ่านทางเครือข่ายจึงเป็นหนทางของการเปิดตลาดให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น จนในปัจจุบันมีผู้ตั้งร้านค้าบนเครือข่ายมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดย่อม



ที่มา http://www.chakkham.ac.th/krusuriya/images/stories/pic%2021.jpg




นอกจากการทำการค้าบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตแล้ว บริษัท ห้างร้าน และหน่วยงานราชการต่าง ๆ ก็หันมาดำเนินกิจการหรือให้บริการทางอินเตอร์เน็ตมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้บริการสะดวกสบายขึ้น โรงแรมและการท่องเที่ยวเสนอบริการและการจองเข้าพักโรงแรม หรือการซื้อตั๋วเครื่องบินผ่านทางอินเตอร์เน็ต กรมสรรพากรเสนอบริการให้ผู้เสียภาษียื่นแบบรายการการเสียภาษีผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทำให้ผู้คนหลายแสนคนที่มีหน้าที่ต้องยื่นแบบรายการเสียภาษีไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ ผู้เสียภาษีสามารถยื่นแบบรายการเสียภาษีได้จากที่ทำงานหรือที่บ้าน ทำให้ลดปัญหาเรื่องการเดินทางและการจราจรได้มาก



ปัจจัยที่ต้องมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในธุรกิจ 

        1. โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์องค์กรต่างๆทั้งองค์กรธุรกิจ และ องค์กรที่ไม่ใช่ธุรกิจ ได้ปรับตัวเชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยกันแล้วเป็นส่วนใหญ่    องค์กรใดที่ไม่เชื่อมโยงข้อมูลถึงกัน  จะโดดเดี่ยวและดำเนินธุรกิจได้ลำบาก จึงต้องนำเอาเทคโนโลยีเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ตลอดจนข้อบังคับทางกฎหมายในบางเรื่องอาจมีการบังคับใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการควบคุม เช่น การขออนุญาตจดทะเบียนการค้าและการภาษีอากร        ในอนาคตทุกองค์กรการค้าอาจต้องถูกบังคับให้เชื่อมโยงข้อมูลการขายและสินค้าคงคลังเพื่อการจัดเก็บภาษีผ่านเครื่องบันทึกเงินสด
        2. องค์กรธุรกิจในอนาคตมีการแข่งขันสูง     ทุกองค์กรต้องการเข้าถึงผู้บริโภคของตัวเองด้วยความแตกต่างจากคู่แข่งให้มากที่สุด (Customer approach with high differentiated products and services) ด้วยสินค้าและบริการที่ราคาถูกด้วยความรวดเร็วและคุณภาพดีเท่าที่ลูกค้าต้องการ   และระบุได้ด้วยตนเอง (Customization) ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศเอื้อประโยชน์ให้แต่ละองค์กรสามารถทำธุรกิจอีเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ได้ เช่น การซื้อขายสินค้าและทำธุรกรรมผ่านเว็บไซต์ หรือ การพาณิชย์อีเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce)
        3. องค์กรต้องมีการปรับตัวและออกแบบองค์กรใหม่   เพราะถูกผลกระทบจากแรงกดดันในหลายด้าน ได้แก่ แรงกดดันจากเทคโนโลยี   แรงกดดันจากสังคมและแรงกดดันจากตลาดหรือลูกค้า


ตัวอย่างองค์กรที่นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้




 บริษัท การบินไทย จำกัด ( มหาชน )



1. สามารถค้นหาเที่ยวบินที่ต้องการได้หลากหลายสายการบิน เปรียบเทียบพร้อมๆ กัน
การจองทางโทรศัพท์ส่วนใหญ่ พนักงานจองตั๋วจะแจ้งเฉพาะสายการบินที่ได้ค่าคอมมิชชั่นสูงๆ โดยพนักงานบางท่าน อาจจะลืมบางสายการบินที่ราคาถูกกว่าไป ทำให้ลูกค้าเสียประโยชน์ในส่วนนี้ไป



2. ระบบค้นหาเที่ยวบินส่วนใหญ่ จะสามารถเลือกเปรียบเทียบตั๋วในหลายๆ คลาส
คุณรู้หรือไม่ว่า ตั๋วเครื่องบินที่ขายอยู่มีมากกว่า 3-4 คลาส เราอาจจะได้เคยได้ยินว่าระดับของตั๋วเครื่องบินนั้นประกอบด้วย ตั๋วชั้นหนึ่ง ชั้นธุรกิจ และชั้นประหยัด เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว ยังมีคลาสอีกมากมายที่ซ่อนอยู่ภายในตั๋วแต่ละประเภท โดยเฉพาะชั้นประหยัด ที่ส่วนใหญ่จะแตกแยกย่อยออกมาอีก 4-5 คลาส โดยแต่ละคลาสก็มีขอบเขตและราคาไม่เท่ากัน เช่น ตั๋วเครื่องบินชั้น Y สามารถเลื่อนเวลาบินได้ บินได้ภายใน 1 ปี และมีเวลาออกบินที่ดีกว่า แต่ตั๋วชั้นถัดๆ มา อาจจะเลื่อนเวลาไม่ได้ และบินในช่วงเวลาที่จำกัด ตั๋วเหล่านี้ราคาอาจจะต่างกันตั้งแต่ 500 ไปจนถึงหลายพันบาท ซึ่งระบบจองตั๋วออนไลน์ส่วนใหญ่สามารถคัดกรองคลาสมาให้ลูกค้าได้เลือกตามความต้องการมากที่สุด

3. โปร่งใส ได้เห็นราคาขายที่แท้จริง ไม่มีเพิ่มแต่อย่างใด
บางครั้งการโทรศัพท์ไปจองตั๋วแบบเดิม เอเยนต์บางเจ้าอาจจะเพิ่มราคาตั๋ว จากราคาที่ขายอยู่ปกติ เนื่องจากเราไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งแตกต่างจากการจองตั๋วออนไลน์ เราสามารถตรวจสอบได้ว่าราคาของสายการบินนี้ขายอยู่ราคาเท่าไหร่ ชัวร์ ไม่มั่วนิ่ม






4. ระบบทำการออกตั๋วได้ทันทีไม่ต้องรอ
เมื่อทำการจองแบบออนไลน์ ส่วนใหญ่จะได้ตั๋วทันที หรืออย่างน้อยก็ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากจ่ายเงิน ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสะดวกมากยิ่งขึ้น ยิ่งในปัจจุบันตั๋วทั้งหมดเป็นรูปแบบของ E-Ticket ผู้โดยสารสามารถเดินไปยื่นพาสปอร์ต (เที่ยวบินต่างประเทศ) หรือบัตรประชาชน (สำหรับเที่ยวบินในประเทศ) ที่เคาท์เตอร์สนามบินได้เลย โดยไม่ต้องพิมพ์ตั๋วแต่อย่างใด




5. สามารถจ่ายเงินได้ทันที  ข้อดีอีกข้อของระบบออนไลน์ ก็คือ ระบบส่วนใหญ่จะรองรับการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต หรือ Payment Gateway อื่นๆ ที่ช่วยให้เราชำระเงินได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาไปโอนเงิน หรือเดินทางไปรูดบัตรที่บริษัททัวร์ แต่อย่างใด ซึ่งแน่นอนระบบดังกล่าวก็มีความปลอดภัยสูง เพราะทำการเชื่อมระบบตรงไปยังธนาคารผู้ให้บริการทันทีเช่นกันสารสนเทศ





นับว่าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ และชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก  องค์การที่เจริญเติบโตในอนาคตต้องสามารถประยุกต์เทคโนโลยีเข้าไปในโครงสร้างการบริหารงานและการติดต่อสื่อสาร โดยเทคโนโลยีสารสนเทศเปรียบเสมือนเส้นประสาทของธุรกิจ แต่การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศในองค์การจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและบุคลากร มากกว่าการเพิ่มประสิทธิภาพหรือการลดขั้นตอนในการทำงาน การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศจะเกี่ยวข้องกับจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อส่วนรวม เช่น การไหลเวียนของข้อมูลผ่านขอบเขตขององค์การและเขตแดนของประเทศ การติดตามผลและตรวจสอบการทำงานกับความเป็นส่วนตัวของพนักงาน การทุจริตหรือฉ้อโกงในระบบเครือข่าย การก่อการร้ายหรือการโจรกรรม ซึ่งผู้บริหารจะต้องติดตามทำความเข้าใจในศักยภาพและผลกระทบของเทคโนโลยีที่มีต่อองค์การและสังคม เพื่อให้เลือกใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุดและก่อให้เกิดผลกระทบในด้านลบน้อยที่สุดต่อองค์การและสังคมแวดล้อม

เอกสารอ้างอิง

  • โรงเรียนจักรคำคณาทร. กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี สาขาวิชาคอมพิวเตอร์.  2552. "เว็บไซต์ประกอบการสอนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วงชั้นที่4." [ระบบออนลน์]. แหล่งที่มา http://www.chakkham.ac.th/krusuriya/index.php?option=com_content&view=frontpage&Itemid=1 (23 กุมภาพันธ์ 2556).
  • ____ . วิทยาการคอมพิวเตอร์.  2551. "ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ." [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา http://pirun.kps.ku.ac.th/~b5128090/dex2.html (23 กุมภาพันธ์ 2556)
  • อรนุช พัฒนมาศ. ____ . 2553. "ข้อดีข้อเสียของเทคโนโลยีสารสนเทศ". [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา http://www.learners.in.th/blogs/posts/346443 (23 กุมภาพันธ์ 2556)